คนละครึ่งเฟส 5 ครม.แจกคนละ 800 บาท เริ่ม 1 ก.ย. 65

ครม.ไฟเขียวใช้วงเงินสินเชื่อ 2.1 พันล้านบาท “คนละครึ่ง เฟส 5” ใช้เงิน “800 บาท” ต่อคน ใช้สิทธิ์ผ่านแอปวอลเล็ทได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึง 31 ตุลาคมนี้




รายงานข่าวสำนักผู้ว่าฯ เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ก.ค.) ที่ประชุมครม. (ครม.) อนุมัติโครงการครึ่งปีหลัง วงเงิน 21,000 ล้านบาท เบิกเงินกู้ต่ำกว่าพระราชกำหนด และเงินกู้ 5 แสนล้านบาท

โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 800 บาทต่อคนต่อคน ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึง 31 ตุลาคม ครอบคลุมผู้มีสิทธิ์เข้าร่วม 26 ล้านคน

รายละเอียดคนละครึ่ง เฟส 5

โครงการ คนละครึ่ง ระยะที่ 5 สนับสนุนอาหาร เครื่องดื่ม ของชำ นวดสปา ทำผม ทำเล็บ และระบบขนส่งสาธารณะ ยกเว้น การจับสลาก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และรูปแบบอื่น ๆ ของการชำระเงินล่วงหน้าสำหรับสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังให้ไว้สำหรับสินค้าหรือบริการที่ทางราชการจัดให้ในอัตราร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาท ต่อท่านต่อวันตลอดรายการไม่เกิน 800 บาทต่อท่านตลอดรายการ 1 กันยายน ถึง 31 ตุลาคม 2565




วิธีรับสิทธิ์โครงการคนละครึ่ง เฟส 5

1. สำหรับประชาชนผู้ที่ใช้สิทธิ์โครงการ คนละครึ่ง ระยะที 4

2.1 สำหรับพลเมืองที่เคยได้รับมาตรการ/สิ่งของอื่น ๆ ของรัฐบาลที่ใช้ผ่านแอปพลีเคชัน“ เป๋าตัง”

@

ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565 บุคคลสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ผ่านแอปพลีเคชัน “เป๋าตัง” หรือผ่านทางเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
2.2 ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิ/ไม่เคยชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2565 คุณสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5ผ่านทางเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com

สิทธิ์ต้องได้รับการยืนยันภายในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565 และต้องใช้ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”ภายในวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 22:59 น. มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ์




ในเวลาเดียวกัน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2565 จะต้องใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 ต้องใช้เป็นครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายใน 14 วันนับจากวันที่ได้รับข้อความผ่านแอปพลิเคชัน “เป่าตัง” หรือข้อความ (SMS) ยืนยันสิทธิ์ หากเกินระยะเวลาดังกล่าว สิทธิ์จะถูกตัดสิทธิ์

คุณสมบัติสมาชิกที่จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5

  1. เป็นคนไทย
  2. มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ในวันที่ลงทะเบียน
  3. มี บัตรประจำตัวประชาชน
  4. ตามฐานข้อมูลของกรมธนารักษ์ ณ วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการระยะที่ 3 เพื่อเพิ่มกำลังซื้อสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ
  5. มิใช่บุคคลซึ่งถูกระงับหรือชดใช้ตามมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐบาล
  6. ไม่ละเมิดเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐบาล หรือละเมิดมาตรการระดับชาติใดๆ เกี่ยวกับการระบาดของ COVID-19

วิธียืนยันตัวตนกับโครงการคนละครึ่ง เฟส 5

การยืนยันตัวตนก่อนการฝึกครั้งแรกของผู้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งระยะที่ 5 จะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) แต่ผู้ที่เคยใช้บัตรเพื่อยืนยัน ตัวตนของพวกเขายกเว้น ผู้ที่มีบัตรธนาคารกรุงไทยหรือแอป Krungthai NEXT ได้ยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทยแล้วและไม่ต้องยืนยันตัวตนอีก

เข้าร่วมโปรแกรมผู้ประกอบการร้านค้า

ผู้ค้าสามารถลงทะเบียนสำหรับโปรแกรมระยะที่ 5 ในวันที่ 15 สิงหาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 6:00 น. ถึง 22:00 น. จนกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศกำหนดเส้นตายในการสมัคร ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในมาตรการ/โครงการของรัฐอื่น ๆ ได้สมัคร “ถุงเงิน” แล้ว และต้องการเข้าร่วมในโครงการต่อไป จะต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ผู้ประกอบการที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โปรแกรมอื่นๆ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือสาขาของธนาคารกรุงไทย หรือจุดลงทะเบียน

นอกจากโครงการ คนละครึ่ง ระยะที่ 5 แล้ว ยังมีอีก 2 โครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในวันนี้

1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อของผู้ถือบัตร ระยะที่ 5

ช่วยค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาไม่แพง พัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านฟ้าธง) และซื้อสินค้าหรือบริการครึ่งคนจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่ร่วมรายการ ระยะที่ 5 จำนวน 1 กันยายน 2565 ไม่เกิน 200 บาท ต่อคน ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตั้งแต่มกราคม ถึง 31 ตุลาคม (หากเดือนใดมีวงเงินจะไม่สะสมในเดือนถัดไป) รวมเป็นเงิน 400 บาท ต่อท่านตลอดระยะเวลาโครงการ

2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อเพื่อผู้ยากไร้ ระยะที่ 3

ช่วยจำกัดค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าและค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่ร่วมรายการ คนละครึ่ง ระยะที่ 5 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึง ตุลาคม ตลอดระยะเวลาไม่เกินครั้งละ 200 บาท คนต่อเดือน 31 มีนาคม 2565 (ถ้ามีวงเงินจะไม่สะสมในเดือนหน้า) และยอดรวมของแต่ละคนตลอดโครงการ 400 บาท สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ เช่น ผู้ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะไม่สามารถใช้แอป “เป๋าตัง” ได้ผู้อยู่ในอุปการะ (ผู้สูงอายุ ทุพพลภาพ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถลงทะเบียนสำหรับจำนวนเงินค่าเดินทางหรือค่าเดินทางที่ได้รับผ่านแอป “เป๋าตัง”

error: Content is protected !!